วันที่ 14 พ.ค. 65 พ.ต.ท.ชัยกฤต เตารัตน์ สว.( สอบสวน) สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งความจาก นางสุจิน พื้นผา อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ว่าถูก นายสุรชาติ วงษ์จันทร์ อายุ ประมาณ 35 ปี รปภ.บริษัทแห่งหนึ่ง แอบสลับบัตรเอทีเอ็ม แล้วไปถอนเงินไป 610,000 บาท จนเกลี้ยงบัญชี ก่อนจะหายตัวไป

โดยนางสุจิน ให้การทั้งน้ำตาว่า เงินในบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สาขามาบตาพุด ของตนเอง ซึ่งมีเงินอยู่ทั้งหมด 610,000 บาท ได้หายไปจนหมดบัญชี เหลือยอดเงิน 1.24 บาท ซึ่งมั่นใจว่าถูกนายสุรชาติ วงษ์จันทร์ เป็นคนกดเอาเงินไป เพราะเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนเองได้ให้นายสุรชาติ นำบัตรเอทีเอ็ม ไปช่วยกดเงินจำนวน 20,000 บาท

โดยนายสุรชาติก็ไปกดเงินมาให้ พร้อมนำบัตรเอทีเอ็มมาคืนให้ โดยไม่ทราบว่าถูกสลับบัตรไปแล้ว เพราะเป็นบัตรเอทีเอ็ม ธนาคาร ไทยพาณิชย์ ที่มีสีเหมือนกันกับบัตรเอทีเอ็มของตนเอง

จนกระทั่งวันนี้ได้ให้เพื่อนบ้านไปส่งกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ปรากฏว่าไม่สามารถกดได้ เพราะหน้าจอแจ้งว่า รหัสผิด จึงกลับไปนำสมุดบัญชี มาที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามาบตาพุด เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบและปรับสมุดบัญชี พบว่ายอดเงินในบัญชี เหลือเพียง 1.24 บาท ตนเองไม่เชื่อ

เจ้าหน้าที่จึงขอดูบัตรเอทีเอ็ม พบว่าเจ้าของบัตรไม่ใช่ชื่อตน เป็นชื่อของ นายสุรชาติ วงษ์จันทร์ ซึ่งเป็นชื่อของ รปภ.ข้างบ้านที่เคยให้ไปกดเงินให้เมื่อสองเดือนก่อน จึงมั่นใจว่าถูกนายสุรชาติแอบสลับบัตร แล้วนำไปกดเงินออกไปจนเกลี้ยงบัญชี จึงรีบเข้ามาแจ้งความทันที

ยายสุจิน เปิดเผยอีกว่า สาเหตุที่ไว้ใจ เพราะรู้จักกับนายสุรชาติ มาเป็นเวลานับ 10 ปี อาศัยอยู่บ้านเช่าติดกัน และ ยังเคยฝากหลานเข้าทำงานอีกด้วย จึงไว้ใจ ที่ผ่านมาเคยให้ไปกดเงินมาแล้วหลายครั้ง ที่ต้องให้นายสุรชาติไปช่วยกดเงิน เพราะไม่ไว้ใจหลานตัวเองที่เป็นคนเกเร และ ถ้าวันนี้ ไม่ต้องการใช้เงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อมาสร้างบ้าน ก็คงจะยังไม่รู้

ส่วนนายสุรชาติ ได้ออกจากงานแล้วและก็ย้ายออกจากบ้านเช่าไปประมาณ 2 เดือนแล้ว บอกว่าจะกลับบ้านที่จังหวัดนครสวรรค์ ก่อนไปก็ยังให้ยืมเงินไปอีก 8,000 บาท อยากฝากถึงนายสุรชาติ ว่าทำไมทำกับยายได้ลงคอ ขอให้เห็นใจยายด้วย เอาเงินมาคืนให้ยายเถิด เพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิต ที่ได้จากขายที่ดิน เตรียมไว้สร้างบ้านอยู่อาศัยอยู่ก่อนจากไป แล้วยายจะเอาเงินที่ไหนใช้จ่าย

หลังให้การยายสุจิน ได้ร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจ จนลั่นโรงพักเป็นที่เวทนา ทำให้เจ้าหน้าที่ และ คนที่อยู่ในโรงพัก ต่างก็สงสารยายที่ต้องมาถูกหลอกจนหมดตัว ต่างก็ขอให้จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมกับนำเงินมาคืนยายให้ได้โดยเร็ว

เบื้องต้นจากการตรวจสอบของธนาคาร พบว่า นายสุรชาติ ได้ไปกดเงินทั้งหมด ที่ตู้เอทีเอ็มภายในปั๊มน้ำ ปตท.ริมถนนสุขุมวิท ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง

ด้านพ.ต.ท.ชัยกฤต ได้กล่าวว่า จากการสอบสวน พบว่าจุดเกิดเหตุ เป็นพื้นที่ของ สภ.มาบตาพุดระยอง ซึ่งจะส่งเรื่องต่อไปยังพนักงานสอบสวนของเขต สภ.มาบตาพุด เพื่อติดตามจับผู้ก่อเหตุรายนี้มาลงโทษดำเนินคดีต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ก่อเหตุรายดังกล่าว นำเงินก้อนสุดท้ายมาคืนยายด้วยนะคะ