หลายๆคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วและคงจะเคยได้ยินกันมามากตั้งแต่เล็กๆว่า พ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามานั้นคือพระอรหันต์อันยิ่งใหญ่ของบ้าน โดยตามความเชื่อของทุกศาสนาจะมีการสั่งสอนให้เป็นคนดี ให้เราปฏิบัติต่อคนที่รักเราในครอบครัวเป็นอย่ างดี ส่วนในศาสนาพุทธนั้นการที่เราได้ดูแลพ่อแม่ได้เลี้ยงดูพ่อแม่ นั้นถือเป็นความกตัญญูและเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ เป็นการสร้างสิริมงคลให้กับตัวเราเอง ทำให้ได้อานิสงส์แห่งชีวิตของตนเองมากๆให้มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตยิ่งขึ้นไป ซึ่งในวันนี้เรามีผลดีที่คนเป็นลูกที่มีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ เลี้ยงดูพ่อแม่จะได้รับจากการที่เราเลี้ยงดูท่าน บำรุงบิดามารดาเป็นอย่ างดีมาให้ทุกๆท่านได้ทราบและนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติสำหรับการใช้ชีวิตต่อไปในภายภาคหน้า ซึ่งจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ช่วง 1 ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้ตัวเรานั้นดูแลเลี้ยงดูคอยช่วย เหลือกิจการงานของท่าน เลี้ยงดูท่านเมื่อย ามท่านแก่ชรา ดูแลปฏิบัติการกินอยู่เป็นอย่ างดี ให้ความสะดวกสบายเอาใจใส่มีเวลาให้ท่าน สร้างความสุขสร้างรอยยิ้มให้กับท่าน 2 ขณะที่ท่านล่ ว ง ลั บจากไปแล้ว ให้จัดพิธีให้ท่าน หมั่นทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับท่านอย่ างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ดีที่เรานั้นควรต้องทำ อานิสงส์ของการดูแลพ่อแม่ และผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเรามา มี 12 ประการ 1 ทำให้มีความอดทน จากการทำสิ่งต่างๆได้ดี 2 ทำให้เป็นคนมีสติรอบคอบในการที่จะคิดทำการสิ่งใด 3 ทำให้เป็นคนมีเหตุผลในทุกๆเรื่อง 4 ทำให้พ้นทุกข์พ้นภัยได้ 5 ทำให้ได้ลาภโดยง่าย 6 ทำให้แคล้วคลาดภัยในย ามคับขัน […]

1. ความเ จ็ บ ป ว ดเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต บางครั้งที่ประตูชีวิตปิดเพราะได้เวลาแล้วที่ต้องก้าวไปข้างหน้า แต่เรามักไม่ก้าวออกมานอกจากว่ามีสถานการณ์บังคับ บางครั้งก็เป็นเรื่องย ากที่จะเตือนตัวเองว่าไม่มีความเ จ็ บ ป ว ดใดที่ได้มาโดยไร้เหตุผล จงเดินออกมาจากสิ่งที่ทำร้ า ยคุณซะ แต่อย่ าลืมบทเรียนจากประสบการณ์เหล่านั้น การที่คุณต่อสู้ไม่ได้หมายความว่าคุณกำลังล้มเหลว ทุกคนต่างยอมต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ สิ่งที่ดีย่อมต้องใช้เวลา ความอดทนและความคิดเชิงบวก อาจจะช้าสักหน่อยแต่สุดท้ายความสำเร็จก็ต้องมาอย่ างแน่นอน จำไว้ว่าความเ จ็ บ ป ว ดมี 2 แบบ แบบแรกความเ จ็ บ ป ว ดที่ทำร้ า ยคุณ และแบบที่สองความเ จ็ บ ป ว ดที่เปลี่ยนแปลงคุณ อย่ างไรซะคุณต้องยอมรับมันให้ได้เพราะความเ จ็ บ ป ว […]

แง่คิดดีๆ สำหรับคนเราต้องคอยให้ กำลังใจซึ่งกัน ในย ามทุกข์ย ากหยุดโทษตัวเอง และกลับมาให้ อภัยคนอื่น เพื่อก้าวผ่าน เรื่องไม่ดี ที่ผ่านมาในปีที่แล้ว บางครั้งปัญหาที่ผ่านเข้ามา เวลาจะพาให้ผ่านออกไป จะ เรื่องเล็ก หรือ เรื่องใหญ่ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเองทำ ชีวิต ให้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องคิดมาก กับทุกเรื่อง จนทำให้เป็น ภาระ พย าย ามมองโลกตาม ความเป็นจริง หัดทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจงมี ความสุข กับสิ่งที่มี หยุด เปรียบเทียบชีวิต ของตัวเอง กับคนอื่น จง หัวเราะ เมื่อมีโอกาส จง ร้องไห้ ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ เพื่อให้ชีวิตมันสมดุลอย่ า จมกับ อดีต อย่ า รอ สิ่งที่ไม่มีวันหวนคืนอย่ ากลัว ความผิดหวัง เพราะมันทำให้เรา เข้มแข็ง จงอย่ […]

นิสัยกำหนดชีวิต หากนิสัยดี อะไรๆก็จะดีตาม หากคุณเคยถามใครๆว่า “ธุรกิจของคุณดีไหม? ครอบครัวของคุณดีไหม? ลูกๆของคุณดีไหม? ชีวิตคู่ของคุณดีไหมแล้วก็รู้สึกหดหู่ว่าทำไมคนอื่นเขาเจอแต่เรื่องดีๆ แต่ตัวเองกับเจอแต่เรื่องแย่ๆ วันนี้ หากอย ากได้ชีวิตที่ดี จงย้อนกลับไปมองตัวเองว่า คุณเอง นิสัยดีไหม 1. ฝึกยอมรับผิด ไม่มีใครอย ากเป็นคนผิด คนส่วนมากจึงไม่ยอมรับเมื่อทำผิด! และมักปัดความผิดนั้นไปให้ผู้อื่น ดังสุภาษิตที่เรามักจะได้ยินอยู่เสมอ “เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้ผู้อื่น”คนเรามักคิดเข้าข้างตัวเองว่าฉันทำถูกที่สุด ความจริงก็คือ การไม่ยอมรับผิดนั่นแหละคือความผิดการฝึกยอมรับในสิ่งที่ตนเองทำผิดพลาดคือคุณธรรม ยอมรับผิดต่อพ่อแม่ ญาติมิตร สังคม หรือแม้แต่ยอมรับผิดต่อลูก ต่อคนที่ไม่ชอบคุณ มันไม่เพียงทำให้คุณเครียดน้อยลง แต่มันทำให้คุณเป็นคนใจกว้างขึ้น 2. ฝึกเป็นคนอ่อนโยน ส่วนแข็งของปากคือฟัน ส่วนที่อ่อนคือลิ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่อยู่กับปากคือลิ้น ที่จากไปก่อนวัยอันควรคือฟัน! คนเราจึงควรฝึกเป็นคนอ่อนโยนบ้าง ชีวิตจะได้ยืนย าว แข็งกร้าวอาจทำให้ชีวิตเสียหาย 3. ฝึกมีความอดทน ถอยหนึ่งก้าวทะเลกว้างฟ้างามความอดทนสามารถสลายเคราะห์ภัยได้หากนำคำว่าอดทนมาใช้กับคู่ชีวิต ครอบครัวยืนย าวหากนำคำว่าอดทนมาใช้กับหน้าที่การงาน ย่อมพบกับความเจริญหากนำคำว่าอดทนมาใช้กับเรื่องราว จากใหญ่จะกลายเป็นเล็ก จากหนักจะกลายเป็นเบาเพราะคำว่าอดทน คุณจะเข้าใจโลก เข้าใจว่าใครดีใครร้ า ย […]

ในโลกของการทำงานโดยเฉพาะธุรกิจนั้น เราต้องพบปะกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้า และมนุษย์ก็มีความหลากหลายแตกต่างกันไป ทั้งนิสัย ทัศนคติ หรือพฤติก ร ร ม คุณอาจจะพบเจอกับคนบางประเภทที่คุณไม่ชอบพวกเขาเอาเสียเลย ทนไม่ได้เวลาที่ต้องอยู่ใกล้ๆ หรือมีปฏิสัมพันธ์ด้วย แต่งานก็คืองาน ถ้าคุณจำเป็นต้องข้องเกี่ยวกับพวกเขาล่ะ คุณต้องทำยังไงให้ตัวเองสบายใจจนงานไม่พัง ไม่ต้องห่วง มันมีวิธีแก้ไขปรับตัว วันนี้เรามาแนะนำเคล็ดลับ 3 ข้อที่จะช่วยให้คุณทำงานกับคนที่คุณไม่ชอบได้โดยที่ไม่มากระทบกับจิตใจของคุณ 1. ย้อนกลับมาดูตัวเอง ขั้นแรกในการสร้างปฏิสัมพันธ์ หรืออยู่ร่วมกันกับคนอื่น สิ่งที่คุณต้องตระหนักไว้เสมอก็คือ คุณไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงใครได้นอกจากตัวคุณเอง และการพย าย ามเปลี่ยนคนอื่นก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก แถมยังทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงไปอีก การเปลี่ยนแปลงคนอื่นก็เหมือนการพย าย ามควบคุมเขา และไม่มีใครชอบที่จะถูกควบคุม (คุณเองก็คงไม่ชอบใช่ไหมล่ะ) คำแนะนำก็คือ ถ้ามีใครมาทำอะไรที่ให้คุณไม่พอใจ อย ากให้คุณลองย้อนกลับมาดูตัวคุณเองว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้น มันเป็นสิ่งที่คุณเคยทำลงไปบ้างหรือเปล่า เพราะเรามักจะทำในสิ่งที่เราไม่ชอบออกไปโดยไม่รู้ตัว (เพราะว่าเราทำใส่คนอื่น เราเลยไม่เดือดร้อน) ดังนั้นถ้าคุณรู้สึกว่าใครกำลังทำให้คุณไม่พอใจ จงหยุดคิดสักหน่อยว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันแย่จริงๆ หรือว่าเป็นสิ่งที่คุณก็เคยทำออกมาโดยไม่รู้ตัว 2. หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหว ก า ร เ […]

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่าปล่อยวางกันมาบ้างแล้ว แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะทำได้ แท้ที่จริงแล้วการปล่อยวางคืออะไรกันแน่ การปล่อยวางคือการละทิ้งทุกอย่างแล้วหนีไปอยู่คนเดียวในที่ๆ ไม่มีใครรู้จักใช่ หรือ ไม่ วันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จัก กับการปล่อยวางที่แท้จริง ว่ามันคืออะไรกันแน่ สิ่งที่ต้องทำให้ได้หากอยากปล่อยวาง 1.อย่าคิดแก้แค้น การแก้แค้นที่ดีสุด คือการทำชีวิตของคุณให้ดี ให้มีความสุข ประสบความสำเร็จ หากในชีวิตหากคุณมัว แต่คิดเรื่องแก้แค้น วันๆ นึง คุณก็จะไม่ได้ทำสิ่งที่ดีเลย เพราะคุณมัวแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้คนที่คุณแค้นไม่มีความสุข นั่นแสดงว่า คุณไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย ดังคำพูดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์และนักปรัชญาชื่อก้องโลก ที่กล่าวไว้ว่า คุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เมื่อคุณหมกมุ่นอยู่กับความคิดและความรู้สึกด้านลบ 2.ปล่อยวางความโกรธ ความโกรธเป็นอารมณ์ที่แสดงออกมาในทางลบ หากคุณสามารถปล่อยวางความโกรธลงได้ ชีวิตของคุณก็จะมีแต่เรื่องดีๆ ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไปโกรธ ความโกรธนั้นจะทำให้คุณมีความร้อนอยู่ภายในหาความสุขไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องอะไรเราจะต้องทำให้ตัวเองไม่มีความสุขล่ะ 3.หมั่นสวดมนต์แผ่เมตตา การสวดมนต์แผ่เมตตานี้ นอกจากได้อานิสงส์แรงกล้าแล้ว ยังทำให้เราเป็นผู้ที่มีจิตใจสูง เป็นผู้ที่มีสติปัญญา อะไรที่เป็นปัญหาเราก็สามารถที่จะแก้ไขได้ในทางที่ถูกที่ควร 4.หาความสุขจากสิ่งรอบตัว การแสวงหาความสุขนั้น เราไม่จำเป็นจะต้องออกเดินทางไกลไปหาที่ไหน ความสุขที่แท้จริง ไม่ได้ไกลตัวคุณเลย หากคุณเปิดใจปล่อยวางจากสิ่งที่ยึดถืออยู่ คุณก็จะพบว่าอะไรๆ ก็ล้วนเป็นความสุขทั้งนั้น เช่น การที่คุณได้ทำงานที่คุณรัก การที่คุณได้ดูแลพ่อแม่ การที่คุณได้ไปเที่ยวกับครอบครัว […]